คำถามที่พบบ่อย
"อาหารและน้ำดื่ม"

• หลังผ่าตัดต้องปรับเปลี่ยนเรื่องอาหารการกินอย่างไร

ตอบ : เนื่องจากหลังปลูกถ่าย ผู้ป่วยมีความจำเป็นต้องทานยากดภูมิคุ้มกัน ดังนั้นผู้ป่วยต้องทานอาหารที่สุกและสะอาดเท่านั้น รวมถึงระมัดระวังทานอาหารบางชนิด เช่น ส้มโอ ทับทิม ส้มเช้ง เกร๊พฟรุ๊ต เนื่องจากอาจส่งผลถึงระดับยากดภูมิคุ้มกัน

​

• ผู้ป่วยปลูกถ่ายอวัยวะ สามารถดื่มชา กาแฟ หรือเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของสมุนไพร ได้หรือไม่

ตอบ : ควรหลีกเลี่ยงการดื่มชา กาแฟ โดยเฉพาะที่มีส่วนผสมของสมุนไพร เพราะอาจมีผลต่อการออกฤทธิ์ของยากดภูมิคุ้มกันได้

​

• อาหารที่ทำไว้ หรือ ซื้อไว้ค้างมื้อ สามารถรับประทานได้หรือไม่

ตอบ : อาหารสำหรับผู้ป่วยปลูกถ่ายอวัยวะ เน้นย้ำเรื่องสุกใหม่และสะอาด  ดังนั้นในกรณีอาหารที่ค้างมื้อ ไม่แนะนำให้รับประทาน เนื่องจากเมื่อเวลาผ่านไป โดยเฉพาะถ้ามากกว่า 2 ชั่วโมงที่อุณหภูมิห้องหลังปรุงสุก เชื้อแบคทีเรียที่ปนเปื้อนมากับอาหารโดยธรรมชาติตั้งแต่แรกเริ่มจะทวีจำนวนขึ้นเรื่อย ๆ จนอาจส่งผลให้เกิดการปวดท้อง ท้องร่วงอย่างรุนแรง กรณีร้ายแรงอาจทำให้ติดเชื้อในกระแสเลือดได้

​

• ใช้น้ำมันหมูในการปรุงประกอบอาหารได้หรือไม่

ตอบ : ไม่ควรใช้ เนื่องจากเป็นน้ำมันที่มีกรดไขมันอิ่มตัวสูง สำหรับอาหารประเภททอดควรใช้น้ำมันปาล์ม และสำหรับอาหารประเภทผัดควรเลือกใช้น้ำมันรำข้าว น้ำมันถั่วเหลือง แต่ควรบริโภคในปริมาณที่เหมาะสมต่อวัน และผู้ป่วยปลูกถ่ายตับควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันสูง เช่น ของมัน ของทอด เบเกอรี่ ครีมเทียม เนื้อสัตว์ติดมัน

​

• สามารถรับประทานโพรไบโอติกได้หรือไม่?

ตอบ : ห้ามรับประทานยาเม็ด ผง หรืออาหารเสริมโพรไบโอติกอื่นๆ ที่มีโพรไบโอติกเป็นส่วมผสม สิ่งเหล่านี้อาจทำให้คุณติดเชื้อร้ายแรงได้ นอกจากนี้ยังอาจส่งผลต่อระบบภูมิคุ้มกันของคุณและเพิ่มโอกาสในการปฏิเสธอวัยวะ โพรไบโอติกที่พบในโยเกิร์ตหรือชีสนั้น สามารถรับประทานในปริมาณที่พอเหมาะ

​

• สามารถดื่มชาสมุนไพรได้หรือไม่?

ตอบ : ชาสมุนไพรส่วนใหญ่ที่พบในซูเปอร์มาร์เก็ตใช้กลิ่นสมุนไพรหรือมีสมุนไพรแท้ในปริมาณที่น้อยมาก ซึ่งชาเหล่านี้สามารถรับประทานได้ในปริมาณที่พอเหมาะ ห้ามใช้ชาที่ทำจากการแช่หรือต้มส่วนของพืช (เช่น ดอก ใบ เมล็ด หรือราก) ในน้ำ เพราะเราไม่สามารถแน่ใจได้ว่ามีอะไรอยู่ในส่วนของพืชเหล่านี้ และไม่มีทางแน่ใจได้ว่าการใช้ชาประเภทนี้จะปลอดภัย

​

• สามารถปรุงอาหารด้วยสมุนไพร เครื่องเทศ หรือน้ำส้มสายชูได้หรือไม่?

ตอบ : คุณสามารถปรุงอาหารด้วยสมุนไพร เครื่องเทศ และน้ำส้มสายชูในปริมาณปกติได้อย่างปลอดภัย แต่ถ้าหากคุณใช้สมุนไพร เครื่องเทศ หรือน้ำส้มสายชูในปริมาณมากเป็นเวลานาน อาจเพิ่มโอกาสเกิดผลข้างเคียงหรือปฏิกิริยากับยาอื่น ๆ ได้